บทความ

ตอนที่ 2 - เมาแล้วขับ ประกันจ่ายหรือไม่

จากประเด็นเรื่อง เมาแล้วขับ ที่พี่สิงโตเคยกล่าวไว้ใน (ตอนที่ 1)
หลาย ๆ คนอาจมีคำถามว่า "เมาแล้วขับ ประกันจะยังคุ้มครองหรือไม่" วันนี้พี่สิงโตมีคำตอบครับ

อย่างที่รู้กันว่า สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมาจากเรื่อง "เมาแล้วขับ" ดังนั้นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ก็คือการออกใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เอง ก็ได้มีการออกมาตรการ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการปรับปรุงแก้ไขข้อยกเว้นในส่วนเงื่อนไขเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือด โดยจากเดิมตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 22/2551 ได้กำหนดข้อยกเว้นความคุ้มครองสำหรับการประกันภัยรถยนต์ไว้ว่า “การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะไม่ได้รับความคุ้มครอง" ให้เปลี่ยนเป็นข้อความตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 11/2560  ดังนี้ว่า “การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะไม่ได้รับความคุ้มครอง"

จากการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดข้างต้น เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 11/2560 นี้ จะส่งผลให้ผู้ขับขี่รถคันเอาประกันภัยภาคสมัครใจที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์แล้วประสบอุบัติเหตุจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทั้งในส่วนความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย และในส่วนของความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งนี้ในส่วนความรับผิดต่อบุคคลภายนอก บริษัทประกันภัยจะยังคงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้บุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายไปก่อน โดยเมื่อบริษัทประกันภัยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้ว ก็ให้บริษัทนั้นมีสิทธิ์ไปไล่เบี้ยเรียกคืนค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทได้จ่ายไปจากผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในภายหลัง

ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนปริมาณแอลกอฮอล์ดังกล่าว ไม่กระทบต่อความคุ้มครองในส่วนของการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) นะครับ